พระอาจารย์ บุญกู้ อนุวฑฺฒโน
  |  
 






 พลังชีวิต โดย พระครูพุทธิสารสุนทร (บุญกู้ อนุวฑฺฒโน)วัดพระศรีมหาธาตุ บางเขน กรุงเทพมหานคร

การไหว้พระ  สวดมนต์  ภาวนา ย่อมเกิดมีอานิสงส์แก่ผู้ที่บำเพ็ญเป็นอย่างยิ่ง  เป็นต้นว่า ในการ ไหว้พระ     ได้ฝึกการอ่อนน้อมถ่อมตน ย่อมเกิดศิริมงคลกล่าวคือ  พร ๔  ประการ  มีอายุ  วรรณะ  สุขะ  พละ  จะเพิ่มพูนต่อบุคคลผู้มีปกตินอบน้อม กราบไหว้ผู้เจริญกว่าเป็นนิจ ในการ   “สวดมนต์    จะเป็นมงคลอันอุดม ที่ได้เปล่งวาจาพุทธภาษิต, พัฒนาความจำ เมื่อเพียรท่องให้ได้,  จะเพิ่มพลังสติ  ถ้าตั้งใจสวดจนระลึกได้, พระคาถาจะขลังถ้ามีพลังสมาธิช่วย, ย่อมเจริญปัญญา หากศึกษาให้ทราบความหมาย, และสามารถบรรลุคุณธรรมสูงส่งยิ่งขึ้นเมื่อปฏิบัติตามบทธรรมนั้นๆได้  ในการ ภาวนา  ทำให้สามารถรวมพลังจิต,  ควบคุมและพิชิตอารมณ์ร้าย  ,ได้เพิ่มสุขภาพทั้งใจและกาย, ช่วยมิให้เกิดทิฏฐิมานะ หลงตัวตน,  ความวิตกกังวล จะลดลง, ทั้งส่งเสริมสติปัญญาให้รอบรู้กองสังขาร, ช่วยให้เกิดญาณทัศนะ, ลดละกิเลสตัณหา, พาให้สำเร็จถึงมรรคผลนิพพานเร็วขึ้น 

    อนึ่ง มีเรื่องราวที่แสดงหลักฐาน ตั้งแต่โบราณกาลสืบ ๆ ต่อมาว่า  เวทมนต์หรือพระปริตตซึ่ง ผู้มีจิตแน่วแน่ตั้งใจสวดและบริกรรมภาวนา     สามารถทำให้เกิดความขลังและศักดิ์สิทธิ์ เพิ่มพลังชีวิต มีประสิทธิผลตามเจตนาขึ้นมาได้ ไม่มากก็น้อย ทั้งนี้เพราะมีเหตุผลตาม กฎแห่งความสั่นสะเทือน  ทำให้เป็นไปได้ตามเจตจำนงโดยเฉพาะการเจริญพระพุทธมนต์หรือพระปริตต์ในทางพระพุทธศาสนา  มีตำนานแจ้งไว้อยู่ในพระไตรปิฎกบางแห่ง  มีหลักฐานอยู่ในพระคัมภีร์ธรรมของพระพุทธโฆษาจารย์บ้าง และจากคำอธิบายของพระนาคเสนเถร ในหนังสือมิลินทปัญหา เป็นต้น

    ทั้งนี้ มีท่านผู้รู้กล่าวเตือนไว้ว่า พระคาถาอาคม หรือพระปริตต์จะไม่คุ้มครองรักษาเพราะเหตุ ๓ ประการ กล่าวคือ 
   ๑. เพราะกรรมเข้ามาตัดรอน
   ๒. เพราะกิเลสเข้ามาขัดขวาง
   ๓. เพราะไม่มีศรัทธา ความเชื่อ

   ในยุคปัจจุบันนี้ เป็นยุคสมัยที่เรียกกันว่า ยุคโลกาภิวัตน์         โลกมีความเจริญเก้าวหน้าทางวิทยาการแผนใหม่       ซึ่งเรียกว่าเทคโนโลยีเพียงไรก็ตาม แต่ความเจริญทางจิต ความสุขทางใจของมนุษย์ ก็ยังคงเป็นปัญหาอยู่ไม่น้อย

   ดังนั้น การศึกษาเพื่อเรียนรู้เรื่องการพัฒนาชีวิตด้าน จิตใจ  เป็นต้นว่า การไหว้พระ  สวดมนต์ และภาวนา  จึงมีส่วนช่วยให้ผู้ศรัทธา ซึ่งขวนขวายบำเพ็ญตาม เพิ่มความเชื่อมั่นในตนเอง มีความเข้มแข็งในการดำรงชีวิต  การประกอบกุศลกรณีย์  ในการเดินทางไกล  โดยไม่หวาดหวั่นต่ออุบัติเหตุ หรือการเจ็บไข้ได้ป่วย  และอุปสรรคอันตรายเท่าใดนัก  ทั้งสามารถประสบผลสำเร็จในชีวิต  มีความสุขความเจริญทั้งทางโลกทางธรรมยิ่งขึ้นทีเดียว

   หนังสือ พลังชีวิต เล่มน้อยนี้  เกิดจากคุณศิริกุล    กนกกันฑพงษ์         และญาติโยมบางคนผู้มีความเลื่อมใสศรัทธา ใน การไหว้พระ สวดมนต์ ภาวนา  ขอร้องให้หาบทสวดมนต์ที่มีอานุภาพและความขลังบางบท  ตามสมควร   เพื่อมาจัดพิมพ์เป็นธรรมบรรณาการต่อผู้สนใจบ้าง

   ขออานุภาพแห่งพระพุทธมนต์ กับพระคาถาที่ศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย     ขออานิสงส์แห่งความปรารถนาดี   และบารมีธรรมของท่านโบราณาจารย์ผู้ทรงคุณทั้งหลาย ตลอดจนกุศลเจตนาของคณะ ท่านเจ้าภาพ      ในการบำเพ็ญธรรมทาน ครั้งนี้ จงเป็นพลวปัจจัยช่วยเพิ่ม พลังชีวิต แก่บรรดาท่านสาธุชน   ผู้ใคร่ในธรรมในที่ทุกสถาน ตลอดกาลทุกเมื่อ   เทอญ                      

พระครูพุทธิสารสุนทร

(บุญกู้  อนุวฑฺฒโน)

วัดพระศรีมหาธาตุ 

บางเขน   กรุงเทพมหานคร

๑   กันยายน    ๒๕๕๑

บทไหว้พระ

บทไหว้พระ สวดมนต์ คำขอขมาโทษต่อพระรัตนตรัย และคำนมัสการพระบรมธาตุ พระอรหันต์ธาตุ พระพุทธรูป พระสถูป พระเจดีย์ ตลอดจนไม้มหาโพธิ์  ซึ่งเป็นวัตถุที่พุทธบริษัท ควรเคารพสักการะทั่ว ๆ ไป  เพื่อให้เป็นศิริมงคลแก่ตนเอง

พระสุทธิธรรมรังสีคัมภีรเมธาจารย์ 

(ท่านพ่อลี ธัมมธโร)
วัดอโศการาม   

สมุทรปราการ

*******

   อะระหัง  สัมมาสัมพุทโธ  ภะคะวา,  พุทธัง  ภะคะวันตัง  อภิวาเทมิ.  (กราบ)
   สวากขาโต  ภะคะวะตา  ธัมโม,  ธัมมัง  นมัสสามิ.  (กราบ)
   สุปะฏิปันโน  ภะคะวะโต  สาวะกะ สังโฆ,  สังฆัง  นะมามิ.  (กราบ)
  
    นะโม  ตัสสะ  ภะคะวะโต  อะระหะโต  สัมมาสัมพุทธัสสะ.  (ว่า  ๓  จบ)

   อุกาสะ  รัตตะนัตตะเย  ปมาเทนะ  ทวาระตะเยนะ  กะตัง,   สัพพัง  อะปะราธัง    ขะมะถะ  เม  ภันเต. (ถ้าว่าหลายคน เปลี่ยนเป็น ขะมะตุ โน ภันเต)

   วันทามิ  ภันเต  เจติยัง,  สัพพัง  สัพพัตถะ ฐาเน,  สุปะติฎฐิตัง  สารีรังกะธาตุง,  มหาโพธิง  พุทธะรูปัง สักการัตถัง.  อะหัง  วันทามิ  ธาตุโย,  อะหัง  วันทามิ  สัพพะโส,  อิจเจตัง  ระตะนัตตะยัง  อะหัง  วันทามิ  สัพพะทา.

   พุทธะปูชา  มหาเตชะวันโต,  ธัมมะปูชา  มะหัปปัญโญ,  สังฆะปูชา  มหาโภคาวะโห.

   พุทธัง  ธังมัง  สังฆัง ,  ชีวิตัง  ยาวะ      นิพพานัง  สะระณัง คัจฉามิ.

   ปะริสุทโธ  อะหัง ภันเต,  ปะริสุทโธติ  มัง , พุทโธ  ธัมโม  สังโฆ  ธาเรตุ.

   สัพเต  สัตตา  สะทา โหนตุ  อะเวรา  สุขะชีวิโน. (ขอสัตว์ทั้งหลายอย่าได้มีเวรแก่กันและกัน จงเป็นผู้ดำรงชีพอยู่เป็นสุขทุกเมื่อเทอญ)

   กะตัง  ปุญญะผะลัง  มัยหัง , สัพเพ  ภาคี  ภะวันตุ...เต. (ขอสัตว์ทั้งหลายจงได้เสวยผลบุญ ที่ข้าพเจ้าได้บำเพ็ญ ด้วยกาย วาจา ใจ แล้วนั้น เทอญ

 “ทิพยมนต์

 (สวดท่องป้องกันภัย  ให้สุขภาพดี  ทวีสิริมงคล)

พระสุทธิธรรมรังสีคัมภีรเมธาจารย์ 

(ท่านพ่อลี ธมฺมธโร) 

   นะโม  ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ.  (สามจบ)

   พุทธัง อายุวัฑฒะนัง ชีวิตัง ยาวะ         นิพพานัง   สะระณัง คัจฉามิ.

   ธัมมัง อายุวัฑฒะนัง ชีวิตัง ยาวะ               นิพพานัง   สะระณัง คัจฉามิ.

   สังฆัง อายุวัฑฒะนัง ชีวิตัง ยาวะ         นิพพานัง   สะระณัง คัจฉามิ. 

   ทุติยัมปิ พุทธัง อายุวัฑฒะนัง ชีวิตัง    ยาวะ  นิพพานัง   สะระณัง คัจฉามิ. 

   ทุติยัมปิ ธัมมัง อายุวัฑฒะนัง ชีวิตัง    ยาวะ  นิพพานัง   สะระณัง คัจฉามิ. 

   ทุติยัมปิ สังฆัง อายุวัฑฒะนัง ชีวิตัง   ยาวะ  นิพพานัง   สะระณัง คัจฉามิ. 

   ตะติยัมปิ พุทธัง  อายุวัฑฒะนัง ชีวิตัง ยาวะนิพพานัง   สะระณัง คัจฉามิ. 

   ตะติยัมปิ ธัมมัง อายุวัฑฒะนัง ชีวิตัง  ยาวะนิพพานัง   สะระณัง คัจฉามิ. 

   ตะติยัมปิ สังฆัง  อายุวัฑฒะนัง ชีวิตัง ยาวะนิพพานัง   สะระณัง คัจฉามิ. 

   วาโย จะ พุทธะคุณัง อะระหัง พุทโธ   อิติปิ โส   ภะคะวา นะมามิหัง.

   วาโย จะ ธัมเมตัง อะระหัง พุทโธ        อิติปิ  โส   ภะคะวา นะมามิหัง.  

   วาโย จะ สังฆานัง อะระหัง พุทโธ       อิติปิ  โส  ภะคะวา นะมามิหัง.

   เตโช จะ  พุทธะคุณัง อะระหัง พุทโธ  อิติปิ โส  ภะคะวา นะมามิหัง.

   เตโช จะ   ธัมเมตัง อะระหัง พุทโธ      อิติปิ  โส  ภะคะวา  นะมามิหัง.  

   เตโช จะ สังฆานัง อะระหัง พุทโธ       อิติปิ  โส  ภะคะวา   นะมามิหัง.

   อาโป จะ พุทธะคุณัง อะระหัง พุทโธ       อิติปิ โส  ภะคะวา นะมามิหัง.

       อาโป จะ ธัมเมตัง อะระหัง พุทโธ       อิติปิ  โส    ภะคะวา   นะมามิหัง.

       อาโป จะ  สังฆานัง อะระหัง พุทโธ     อิติปิ  โส  ภะคะวา นะมามิหัง.

       ปะฐะวี จะ พุทธะคุณัง อะระหัง พุทโธ      อิติปิ โส   ภะคะวา นะมามิหัง.

       ปะฐะวี จะ ธัมเมตัง อะระหัง พุทโธ     อิติปิ  โส  ภะคะวา นะมามิหัง.   

       ปะฐะวี จะ สังฆานัง อะระหัง พุทโธ    อิติปิ  โส  ภะคะวา นะมามิหัง.

       อากาสะ จะพุทธะคุณัง อะระหัง พุทโธ     อิติปิ โส ภะคะวา นะมามิหัง.           

       อากาสะ จะ ธัมเมตัง อะระหัง พุทโธ   อิติปิ  โส ภะคะวา นะมามิหัง.    

       อากาสะ จะ  สังฆานัง อะระหัง พุทโธ อิติปิ  โส ภะคะวา นะมามิหัง.

       วิญญาณัญ  จะ พุทธะคุณัง อะระหัง  พุทโธ อิติปิ โส   ภะคะวา นะมามิหัง.      

        วิญญาณัญ จะ ธัมเมตัง  อะระหัง     พุทโธ    อิติปิ โส   ภะคะวา นะมามิหัง.    

        วิญญาณัญ  จะ สังฆานัง อะระหัง    พุทโธ   อิติปิ  โส  ภะคะวา นะมามิหัง.     

            อะระหัง สัมมาสัมพุทโธ, วิชชา         จะระณะสัมปันโน สุคะโต โลกะวิทู,  อนุตตะโร  ปุริสะทัมมะสาระถิ สัตถา เทวะมะนุสสานัง พุทโธ ภะคะวาติ.

            สวากขาโต  ภะคะวะตา  ธัมโม ,  สันทิฎฐิโก    อะกาลิโก       เอหิปัสสิโก,      โอปะนะยิโก      ปัจจัตตัง     เวทิตัพโพ    วิญญูหีติ.

            สุปะฎิปันโน  ภะคะวะโต  สาวะกะสังโฆ,  อุชุปะฎิปันโน  ภะคะวะโต   สาวะกะสังโฆ,  ญายะปะฎิปันโน  ภะคะวะโต  สาวะกะสังโฆ,  สามีจิปะฎิปันโน  ภะคะวะโต  สาวะกะสังโฆ,  ยะทิทัง     จัตตาริ  ปุริสะยุคานิ อัฎฐ   ปุริสะปุคคะลา เอสะ  ภะคะวะโต  สาวะกะสังโฆ,  อาหุเนยโย  ปาหุเนยโย  ทักขิเณยโย  อัญชะลิ กะระณีโย, อะนุตตะรัง ปุญญักเขตตัง  โสกัสสาติ.

            ธาตุปะริสุทธานุภาเวนะ,  สัพพะทุกขา  สัพพะภะยา  สัพพะโรคา วิมุจจันติ อิติ  อุทธะมะโธ ติริยัง  สัพพะธิ  สัพพัตตะตายะ  สัพพาวันตัง  โลกัง,  เมตตา  กรุณา  มุทิตา  อุเบกขา  สะหะคะเตนะ  เจตะสา,  จะตุททิสัง  ผะริตวา   วิหะระติ, สุขัง  สุปะติ  สุขัง ปะฎิพุชฌะติ,  นะปาปะกัง  สุปินัง   ปัสสะติ,  มุนุสสานัง       ปิโยโหติ  อะมะนุสสานัง ปิโยโหติ,       เทวะตา รักขันติ,    นาสสะ  อัคคิ  วา  วิสัง  วา  สัตถัง  วา  กะมะติ,  ตุวะฏัง  จิตตัง สะมาธิยะติ,  มุขะวัณโณ  วิปปะสีทะติ,  อะสัมมุฬะโห  กาลัง  กะโรติ,  อุตตะริง  อัปปะฏิวิชฌันโต  พรหมมะโลกูปะโค  โหติ,  อิติ  อุทธะมะโธ  ติริยัง  อะเวรัง  อะเวรา  สุขะชีวิโน.  กะตัง  ปุญญะผะลัง  มัยหัง  สัพเพ ภาคี  ภะวันตุ เต,  ภะวะตุ  สัพพะมังคะลัง  รักขันตุ  สัพพะเทวตา,  สัพพะพุทธานุภาเวนะ   สัพพะ ธัมมานุภาเวนะ  สัพพะสังฆานุภาเวนะ,  โสตถี  โหนตุ  นิรันตะรัง,  อะระหัง  พุทโธ     อิติปิ   โส   ภะคะวา....นะมามิหัง.
                                                               

            การไหว้พระ ได้บุญทางกาย การสวดมนต์ ได้บุญทางวาจา ส่วนการภาวนาได้บุญทางจิตใจโดยตรง ฉะนั้น จึงควรบำเพ็ญให้ครบทั้ง ๓ ประการ  จึงจะได้บุญมากที่สุด  เกิดกุศลต่อชีวิตจิตใจเป็นอย่างยิ่ง

พระคาถาประจำองค์พระ 

  อะระหัง  พุทโธ  อิติปิ โส  ภะคะวา   นะมามิหัง
หมั่นสวดภาวนาเสมอ เพิ่มศิริมงคลแก่ตนเอง

       

พระคาถาบูชาพระรัตนตรัย 

พุทโธ สัพพัญญุตะญาโณ, ธัมโม โลกุตตะโร วะโร,   สังโฆ มัคคะผะลัฎโฐจะ,    อิจเจตัง ระตะนัตตะยัง, อะระหัง พุทโธ อิติปิ โส ภควา นะมามิหัง 

พระคาถาคู่มือบรรเทาทุกข์   

ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิ มุตตะมัง,

อะระหัง พุทโธ อิติปิ โส ภะคะวา  นะมามิหัง

สวดเวลาป่วยไข้ ไม่สบายใจ ได้ผลดีขึ้น

พระคาถาปลอดภัย

นะมัตถุ พุทธานัง   นะมัตถุ โพธิยา,      นะโม วิมุตตานัง   นะโม วิมุตติยา

คุ้มครองให้ปลอดภัยพ้นอันตราย

คำอธิษฐานจิต

พุทธะปูชา มหาเตชะวันโต

ขอเดชะ การบูชาพระพุทธเจ้า จงเป็นเหตุนำมา

ซึ่งเดชานุภาพอันยิ่งใหญ่

ธัมมะปูชา มหัปปัญโญ

ขอเดชะ การบูชาพระธรรม จงเป็นเหตุนำมา

ซึ่งสติปัญญาอันยิ่งใหญ่

สังฆะปูชา มหาโภคาวะโห

ขอเดชะ การบูชาพระสงฆ์ จงเป็นเหตุนำมา

ซึ่งโภคทรัพย์สมบัติอันยิ่งใหญ่

สิทธิชโย สิทธิลาโภ สิทธิสุโข ภะวันตุ เม

 ขอให้ข้าพเจ้าสำเร็จซึ่ง ชัยชนะ   ลาภะ    สุคโต ตลอดไป  เทอญ”

T T T

 เกราะกันภัย

พระราชวรคุณ

วัดอโศการาม

*******

   มนุษย์เรามีภัยอยู่รอบข้าง มีภัยเฉพาะหน้า ทั้งถูกความทะยานอยากเผาสุม ถูกชรารุมล้อม ถูกมัจจุราชสกัดกั้นไว้ จึงตกอยู่ในวงล้อมอย่างแน่นหนา เมื่อเป็นเช่นนี้ ท่านจะปล่อยให้เขาทำเล่นตามสบาย โดยไม่คิดหาทางป้องกันเทียวหรือ ยอมอ่อนน้อมสวามิภักดิ์ต่อเขาโดยดีเทียวหรือ ถ้าไม่คิดจะสู้เพราะเห็นว่าเคยอยู่ในความปกครองของเขามาแล้ว ก็เป็นอันหมดเรื่องกัน แต่ถ้าท่านคิดจะสู้แล้วจงตื่นเถิด จงลุกขึ้นเถิด   แล้วสร้างเกราะป้องกันภัย สวมเกราะไว้ให้มั่นคง จงพิจารณาเกราะที่ท่านสวมอยู่ทุก ๆ วัน ก่อนจะหลับจะนอน ว่าเกราะที่เราสวมอยู่นั้นมั่นคงดีแล้วหรือ ทั้งนี้เพื่อความสวัสดิมงคลแก่ตนเสียก่อน เป็นบท ๆ ไป  ดังต่อไปนี้

๑.    บทบูชาพระ

   อิมินา สักกาเรนะ ตัง พุทธัง อภิปูชยามิ

   อิมินา สักกาเรนะ ตัง ธังมัง อภิปูชยามิ

  อิมินา สักกาเรนะ ตัง สังฆัง อภิปูชยามิ

                        

๒.  บทไหว้พระ

 อะระหัง สัมมาสัมพุทโธ ภะคะวา พุทธัง ภะคะวันตัง อภิวาเทมิ  (กราบ)

 สวากขาโต ภะคะวะตา ธัมโม ธัมมัง นะมัสสามิ  (กราบ)

 สุปฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ สังฆังนะมามิ (กราบ)

๓.บทนมัสการพระ

 นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ (๓จบ)

๔.บทถึงสรณะ

   พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ

ธังมัง สะระณัง คัจฉามิ

สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ

   ทุติยัมปิ พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ

ทุติยัมปิ ธังมัง สะระณัง คัจฉามิ

ทุติยัมปิ สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ

   ตะติยัมปิ พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ

ตะติยัมปิ ธังมัง สะระณัง คัจฉามิ

ตะติยัมปิ สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ

๕.บทพุทธคุณ

  อิติปิโส ภะคะวา อะระหัง สัมมาสัมพุทโธ, วิชชาจะระณะสัมปันโน สุคะโต โลกะวิทู, อะนุตตะโร ปุริสะทัมมะสาระถิ, สัตถา เทวะมะนุสสานัง  พุทโธ ภะคะวาติ.

๖.บทธรรมคุณ

 สวากขาโต ภะคะวะตา ธัมโม, สันทิฏฐิโก อะกาลิโก เอหิปัสสิโก,      โอปะนะยิโก ปัจจัตตัง เวทิตัพโพ วิญญูหีติ.

๗.     บทสังฆคุณ

       สุปฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ, อุชุปฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ, ญายะปฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ,  สามีจิปฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ, ยะทิทัง จัตตาริ ปุริสะยุคานิ อัฏฐะ ปุริสะปุคคะลา,  เอสะ ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ, อาหุเนยโย ปาหุเนยโย ทักขิเณยโย อัญชะลิกะระณีโย,  อะนุตตะรัง ปุญญักเขตตัง โลกัสสาติ.

              ๘.   บทสวดภาวนา

 นะโม....นมัสการ....ข้าพเจ้าขออาราธนา คุณพระพุทธเจ้าทั้ง ๕ พระองค์,

  อิติปิโส ภะคะวา  คือ องค์สมเด็จพระพุทธเจ้า,

  อิกะวิติ คือ ดวงหทัยขององค์สมเด็จพระพุทธเจ้า,

  อะระหัง สัมมาสัมพุทโธ  คือพระบาทเบื้องขวาขององค์สมเด็จพระพุทธเจ้า,

 วิชชาจะระณะสัมปันโน  คือพระบาทเบื้องซ้ายขององค์สมเด็จพระพุทธเจ้า,

  สุคะโต โลกะวิทู อะนุตตะโร ปุริสะทัมมะสาระถิ คือพระหัตถ์เบื้องขวาขององค์สมเด็จพระพุทธเจ้า,

  สัตถาเทวะมะนุสสานัง  คือพระหัตถ์เบื้องซ้ายขององค์สมเด็จพระพุทธเจ้า,

  พุทโธ ภะคะวาติ คือ พระเศียรรัตนเกล้าขององค์สมเด็จพระพุทธเจ้า,

  อิติปิโสวิเสเสอิ อิเสเสพุทธะนาเมอิ อิเมนาพุทธะตังโสอิ อิโสตังพุทธปีติอิ  คือพระมงกุฎเกล้า ขององค์สมเด็จพระพุทธเจ้า,

  มะอะอุ อุอะมะ  คือ พระเนตรเบื้องขวา ขององค์สมเด็จพระพุทธเจ้า,

  อิสวาสุ สุสวาอิ  คือ พระเนตรเบื้องซ้ายขององค์สมเด็จพระพุทธเจ้า,

  อะสังวิสุโลปุสะพุภะ  ภะพุสะปุโลสุวิสังอะ  คือทวารทั้ง ๙ ขององค์สมเด็จพระพุทธเจ้า,

  กะระมะทะ  กิริมิทิ  กุรุมุทุ  เกเรเมเท  คือสังวาลย์เพชรขององค์สมเด็จพระพุทธเจ้า,

  พุท ธะ สัง มังคะลัง โลเก อุมะอะ  คือมงคลเพชร       ขององค์สมเด็จพระพุทธเจ้า,

 นะมะพะทะ  จะภะกะสะ  คือพระธาตุทั้ง.....๔......ขององค์สมเด็จพระพุทธเจ้า,

 นะมะอะอุ  คือพระรัตนาภรณ์ขององค์สมเด็จพระพุทธเจ้า,

 อายันตุ โภนโต  อิธะ ทาสิเนปะวิ ขะสะอะเมอุ  ยุทธายะโว คัณหะถะ  อาวุธานีติ  คืออาวุธ      ขององค์สมเด็จพระพุทธเจ้า,

  อะสังสุ  สังสุสุ  คือยอดธงชัยขององค์สมเด็จพระพุทธเจ้า,

 ภะคะวา ระตะนะจังกัง มาเปสิ พุทธะจักโก เวหาสะคันตวา มาระเสนัง ปะลาเปสิ  คือจักรแก้วขององค์สมเด็จพระพุทธเจ้า,

 อิติปาระมิตาติงสา  อิติ สัพพัญญู มาคะตา  อิติ โพธิมะนุปปัตโต อิติปิโส จะเตนะโม  คือพระรัศมีและสง่าราศีขององค์สมเด็จพระพุทธเจ้า,                                                                 

 พุทโธ  คือลมหายใจเข้า ออก ขององค์สมเด็จพระ พุทธเจ้า                                                                                                                      

  นะโมพุทธายะ โมพุทธายะนะ พุทธายะนะโม ธายะนะโมพุท ยะนะโมพุทธา นะโมพุทธายะ คือพระนามของ องค์สมเด็จพระพุทธเจ้าทั้ง ๕ พระองค์,

 นะ คือพระกะกุสันโธ, โม คือพระโกนาคม,  พุท คือพระกัสสะโป,  ธา คือ พระสมณโคดม, ยะ คือ พระศรีอริยเมตตรัยเจ้า,  ขออัญเชิญเสด็จลงมาช่วยตัวข้าพเจ้าด้วยเร็วรา ศัตรูจะมาผจญ ขอเดชะพระทะสะพะละญาณ จงลงมาปราบมารและไพรี ฝูงผีและปีศาจ ทั้งอุบาทว์และจัญไร ทั้งคุณและไสย์ ที่เขาใช้มาแต่เบื้องต่ำและเบื้องบน ทั้งคุณผีและคุณคน ทั้งภาพยนต์และอาถรรพ์ ที่เขาฝังไว้ระหว่างทางกลางประตู ขอเดชะพระสัพพัญญู จงลงมากระทำเสียให้พ้นไป จากกายกรรม วจีกรรม มโนกรรม ที่ข้าพเจ้าได้กระทำมาแล้วแต่หนหลัง            พระพุทธัง มารักษา พระธัมมังมารักษา พระสังฆังมารักษา พุทธานุภาเวนะ ธัมมานุภาเวนะ สังฆานุภาเวนะ ด้วย อานุภาพพระพุทธ พระธรรม และพระสงฆ์ ขอจงมาขจัดเสียซึ่งสรรพภยันตราย สารพัดเคราะห์  สารพัดโศก สารพัดโรค สารพัดภัย สารพัดเสนียดจัญไร ให้เหือดหายไป            พุทธัง สัตตะระตะนะปะการัง อัมหากัง สะระณังคัจฉามิ, ธังมัง สัตตะระตะนะปะการัง อัมหากัง สะระณัง คัจฉามิ, สังฆัง สัตตะระตะนะปะการัง อัมหากัง สะระณัง คัจฉามิ ขอจงมาเป็นกำแพงแก้ว ๗ ประการ แวดล้อมตัวข้าพเจ้าไว้ให้มั่นคง

   พุทธัง วันทามิ ธังมัง วันทามิ  สังฆัง วันทามิ, เอเตนะ สัจจะวัชเชนะ โสตถิ เม โหตุ สัพพะทา ฯ

 

        ๙.   บทอุทิศส่วนบุญ

       ถ้าจะอุทิศให้แก่ญาติของตนที่ล่วงลับไปแล้ว ให้ว่าบทดังนี้               
อิทัง เม  ญาตีนัง โหตุ สุขิตา โหนตุ ญาตะโย

   ถ้าจะอุทิศให้แก่สัตว์ทุกจำพวก ที่ล่วงลับไปแล้ว หรือที่ยังอยู่ก็ตาม ให้ว่าบทนี้
     “สัพพะสัตตานัง  ปัตติ  โหตุ

(กราบ ๓ หน)

   เมื่อเสร็จพิธีตอนนี้แล้ว จะหลับจะนอนก็ได้   เพราะได้ตรวจตราป้องกันตัวดีแล้ว หรือมีความอุตสาหะ จะทำสมาธิต่อไปอีก เพื่อเพิ่มพลังจิต ป้องกันจิต เพื่อความแข็งแกร่่ยูมีันจิต เพื่อความแข็งแหพื่อห้งแห่งเกราะที่สวมอยู่ก็ยิ่งดี  ดังพิธีต่อไปนี้

                    ๑๐.  บทสมาธิ

   เมื่อปรารถนาจะทำสมาธิ ให้นั่งคู้บัลลังก์ คือ นั่งขัดสมาธิ ขาขวาทับขาซ้าย มือขวาทับมือซ้าย หงายมือขึ้น ตั้งกายให้ตรง ดำรงสติไว้เฉพาะหน้า กำหนดเอาบทใดบทหนึ่งดังต่อไปนี้   “อรหัง หรือ พุทโธ หรือ อสุภัง หรือ มรณัง  เป็นต้น หรือกำหนดลมหายใจเข้าออก ที่เรียกว่า  อานาปานัสสติก็ ได้ แล้วแต่เป็นที่สบายแห่งจิตของตนให้เป็นอารมณ์ ให้มีสติบริกรรมภาวนาไป จนกว่าจิตจะสงบ จะเป็นร้อยครั้ง พันครั้ง ไม่เป็นประมาณ วันละ ๑๐ นาที หรือ ๒๐ นาที หรือมากกว่านี้ก็ได้ตามอัธยาศัย จะทำให้เป็นผู้มีจิตใจมั่นคง และมีกำลังใจเข้มแข็ง เป็นประโยชน์ในเวลาผจญภัย เวลาเจ็บไข้ได้ป่วย และในกาลอวสานแห่งชีวิต

๑๑.บทอานิสงส์

      เมื่อท่านได้สวมเกราะหนา  ๑๐  ชั้นนี้ อยู่ทุก ๆ วันแล้ว ท่านจะนอนหลับอย่างสบาย ตื่นขึ้นก็สบาย    ไม่ฝันร้าย ท่านจะไม่มีความสะดุ้งหวาดเสียว หรือครั่นคร้ามขามขยาดต่อสรรพภยันตรายใด ๆ ทั้งภายนอกและภายใน   เหมือนนักรบผู้สวมเกราะดีแล้ว ย่อมไม่มีความหวาดหวั่นต่อข้าศึกศัตรู  ฉะนั้นฯ
                  

บทสัจจะอธิษฐาน
ขอพระรัตนตรัยเป็นที่พึ่ง


      นัตถิ เม สะระณัง อัญญัง      พุทโธ เม สะระณัง วะรัง 

      เอเตนะ สัจจะวัชเชนะ              โสตถิ เม โหตุ สัพพทา

      นัตถิ เม สะระณัง อัญญัง    ธัมโม เม สะระณัง วะรัง 
      เอเตนะ สัจจะวัชเชนะ             โสตถิ เม โหตุ สัพพทา

     นัตถิ เม สะระณัง อัญญัง                        สังโฆ เม สะระณัง วะรัง 
   เอเตนะ สัจจะวัชเชนะ               โสตถิ เม โหตุ สัพพทา

                    

บทเจริญพรหมวิหาร

 ? ? ?

คำแผ่เมตตาตน

       อะหัง สุขิโต โหมิ, นิททุกโข โหมิ , อะเวโร โหมิ , อัพยาปัชโฌ โหมิ,      อนีโฆ โหมิ,   สุขี  อัตตานัง  ปะริหะรามิ

       แปลความว่า“ขอให้ข้าพเจ้าเป็นสุข ๆ อย่ามีทุกข์, อย่ามีเวร อย่ามีภัย อย่ามีความวุ่นวาย จงมีความสุขกายสุขใจตลอดไป”

คำแผ่เมตตาแก่ผู้อื่น

        สัพเพ สัตตา อเวรา อัพยาปัชฌา อนีฆา สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุ

        แปลความว่า  “ขอสัตว์ทั้งหลาย อย่ามีเวร อย่ามีภัย  อย่ามีความวุ่นวาย  จงมีความสุขกายสุขใจตลอดไป”

คำเจริญกรุณา

สัพเพ สัตตา สัพพะทุกขา ปะมุญจันตุ

แปลความว่า “ขอสัตว์ทั้งหลาย จงพ้นจากทุกข์ทั้งปวงเถิด”

                        คำเจริญมุทิตา

สัพเพ สัตตา ลัทธะ สัมปัตติโต มา วิคัจฉันตุ

แปลความว่า “ขอสัตว์ทั้งหลาย จงอย่าพลัดพรากจากสมบัติของตนเถิด”

คำเจริญอุเบกขา

      สัพเพ สัตตา กัมมัสสะกา กัมมะทายาทา กัมมะโยนิ กัมมะพันธุ กัมมะปฎิสะระณา, ยัง กัมมัง กะริสสันติ กัลยาณัง วา    ปาปะกัง    วา   ตัสสะ ทายาทา  

ภะวิสสันติ

       แปลความว่า เราทั้งหลายมีกรรมเป็นของ ๆ ตน เป็นผู้ได้รับผลของกรรม มีกรรมเป็นแดนเกิด มีกรรมเป็นเผ่าพันธุ์ มีกรรมเป็นที่พึ่งอาศัย  เราจักทำกรรมอันใดไว้ ดีหรือชั่ว เราจักเป็นผู้ได้รับผลของกรรมนั้น

คำกรวดน้ำอุทิศส่วนกุศล

อิทัง เม ญาตีนัง  โหตุ,    สุขิตา  โหนตุ  ญาตโย

“ขอส่วนบุญนี้  จงสำเร็จแก่ญาติทั้งหลายของข้าพเจ้า ขอให้ญาติทั้งหลาย จงมีความสุขกาย สุขใจ เถิด”

พระคาถาเมตตาหลวง
***

พระญาณสิทธาจารย์

(หลวงปู่เมตตาหลวง)

คำแผ่เมตตาตน

 “อะหัง สุขิโต โหมิ, นิททุกโข โหมิ , อะเวโร โหมิ , อัพยาปัชโฌ โหมิ, อนีโฆ โหมิ, สุขี อัตตานัง ปะริหะรามิ”

คำแผ่เมตตาแก่สัตว์ทั้งหลาย

“สัพเพ สัตตา อะเวรา อัพยาปัชฌา  อนีฆา สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุ.” 

คำแผ่กรุณาแก่สัตว์ทั้งหลาย

“สัพเพ สัตตา สัพพะ ทุกขา ปะมุญจันตุ.

คำแผ่มุทิตาแก่สัตว์ทั้งหลาย

“สัพเพ สัตตา ลัทธะสัมปัตติโต มา วิคัจฉันตุ.”

คำแผ่อุเบกขาแก่สัตว์ทั้งหลาย

       “สัพเพ สัตตา กัมมัสสะกา กัมมะทายาทา กัมมะโยนี กัมมะพันธู กัมมะปฎิสะระณา, ยัง กัมมัง    กริสสันติ  กัลยาณัง วา ปาปะกัง วา   ตัสสะ  ทายาทา ภวิสสันติ.”



บทสวดแผ่เมตตาหลวง

  คำแผ่เมตตาแก่สรรพสัตว์ ๑๒ จำพวก

๑. “สัพเพ   สัตตา  อะเวรา  อัพยาปัชฌา   อนีฆา  สุขี  อัตตานัง  ปะริหะรันตุ. 

๒. สัพเพ  ปาณา  อะเวรา  อัพยาปัชฌา    อนีฆา  สุขี  อัตตานัง  ปะริหะรันตุ. 

๓. สัพเพ ภูตา อะเวรา อัพยาปัชฌา อนีฆา สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุ.

๔. สัพเพ  ปุคคะลา  อะเวรา อัพยาปัชฌา อนีฆา  สุขี  อัตตานัง  ปะริหะรันตุ.

๕. สัพเพ      อัตตะภาวะปะริยาปันนา     อะเวรา    อัพยาปัชฌา  อนีฆา  สุขี  อัตตานัง    ปะริหะรันตุ.

๖. สัพพา  อิตถิโย  อะเวรา  อัพยาปัชฌา   อนีฆา  สุขี  อัตตานัง  ปะริหะรันตุ.

๗.สัพเพ  ปุริสา  อะเวรา  อัพยาปัชฌา      อนีฆา  สุขี  อัตตานัง  ปะริหะรันตุ.

๘. สัพเพ  อริยา  อะเวรา  อัพยาปัชฌา      อนีฆา  สุขี  อัตตานัง  ปะริหะรันตุ.

๙. สัพเพ  อะนะริยา อะเวรา อัพยาปัชฌา อนีฆา  สุขี  อัตตานัง  ปะริหะรันตุ.

๑๐. สัพเพ  เทวา  อะเวรา  อัพยาปัชฌา     อนีฆา  สุขี  อัตตานัง  ปะริหะรันตุ.

๑๑. สัพเพ  มนุสสา  อะเวรา อัพยาปัชฌา อนีฆา  สุขี  อัตตานัง  ปะริหะรันตุ.

๑๒. สัพเพ วินิปาติกา อะเวรา อัพยาปัชฌา    อนีฆา สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุ.”

คำแผ่กรุณาแก่สรรพสัตว์ ๑๒ จำพวก

  ๑.  “สัพเพ  สัตตา   สัพพะ  ทุกขา   ปะมุญจันตุ.

  ๒.  สัพเพ  ปาณา  สัพพะ  ทุกขา  ปะมุญจันตุ.

  ๓.  สัพเพ  ภูตา   สัพพะ  ทุกขา  ปะมุญจันตุ.

  ๔.  สัพเพ  ปุคคะลา   สัพพะ  ทุกขา  ปะมุญจันตุ.

  ๕. สัพเพ  อัตตะภาวะปะริยาปันนา  สัพพะ       

        ทุกขา  ปะมุญจันตุ.

  ๖.  สัพพา  อิตถิโย   สัพพะ  ทุกขา  ปะมุญจันตุ.

  ๗. สัพเพ  ปุริสา   สัพพะ  ทุกขา  ปะมุญจันตุ.

  ๘.  สัพเพ  อริยา   สัพพะ  ทุกขา  ปะมุญจันตุ.

  ๙.  สัพเพ  อะนะริยา   สัพพะ  ทุกขา  ปะมุญจันตุ.

๑๐.  สัพเพ  เทวา   สัพพะ  ทุกขา  ปะมุญจันตุ.

๑๑.  สัพเพ  มนุสสา   สัพพะ  ทุกขา  ปะมุญจันตุ.

๑๒.  สัพเพ  วินิปาติกา   สัพพะ  ทุกขา   ปะมุญจันตุ.”

คำแผ่มุทิตาแก่สรรพสัตว์  ๑๒ จำพวก

๑.  สัพเพ  สัตตา  ลัทธะสัมปัตติโต  มา  วิคัจฉันตุ.

๒.  สัพเพ  ปาณา  ลัทธะสัมปัตติโต  มา  วิคัจฉันตุ.

      ๓.สัพเพ ภูตา ลัทธะสัมปัตติโต มา วิคัจฉันตุ.

        ๔.สัพเพ  ปุคคะลา  ลัทธะสัมปัตติโต  มา  วิคัจฉันตุ

      ๕. สัพเพ  อัตตะภาวะปะริยาปันนา  ลัทธะ      

           สัมปัตติโต  มา  วิคัจฉันตุ.

      ๖. สัพพา  อิตถิโย  ลัทธะสัมปัตติโต  มา  วิคัจฉันตุ.

     ๗.สัพเพ ปุริสา ลัทธะสัมปัตติโต มาวิคัจฉันตุ

      ๘.สัพเพ อริยา ลัทธะสัมปัตติโต มา วิคัจฉันตุ

     ๙. สัพเพ  อะนะริยา  ลัทธะสัมปัตติโต  มา  วิคัจฉันตุ

     ๑๐. สัพเพ  เทวา ลัทธะสัมปัตติโต มา วิคัจฉันตุ.

         ๑๑. สัพเพ  มนุสสา  ลัทธะสัมปัตติโต  มา  วิคัจฉันตุ.

         ๑๒. สัพเพ  วินิปาติกา ลัทธะ สัมปัตติโต     

          มา  วิคัจฉันตุ.”  

คำแผ่อุเบกขาแก่สรรพสัตว์ ๑๒ จำพวก

        ๑. “สัพเพ สัตตา กัมมัสสะกา    กัมมะทายาทา   กัมมะโยนี กัมมะพันธู กัมมะปฎิสะระณา, ยังกัมมัง  กริสสันติ กัลยาณัง วา ปาปะกัง วา ตัสสะ    ทายาทา   ภวิสสันติ.

        ๒. สัพเพ ปาณา กัมมัสสะกา      กัมมะทายาทา  กัมมะโยนี  กัมมะพันธู      กัมมะปฎิสะระณา, ยัง กัมมัง   กริสสันติ กัลยาณัง วา ปาปะกัง วา  ตัสสะ   ทายาทา   ภวิสสันติ.

    ๓. สัพเพ ภูตา กัมมัสสะกา กัมมะทายาทา    กัมมะโยนี    กัมมะพันธู       กัมมะปฎิสะระณา, ยัง  กัมมัง  กริสสันติ กัลยาณัง วา ปาปะกัง วา  ตัสสะ  ทายาทา   ภวิสสันติ.

      ๔. สัพเพ   ปุคคะลา  กัมมัสสะกา กัมมะทายาทา กัมมะโยนี กัมมะพันธู กัมมะปฎิสะระณา, ยัง กัมมัง  กริสสันติ กัลยาณัง วา ปาปะกัง วา ตัสสะ ทายาทา   ภวิสสันติ.

      ๕. สัพเพ อัตตะภาวะปะริยาปันนา กัมมัสสะกา   กัมมะทายาทา   กัมมะโยนี   กัมมะพันธู   กัมมะปฎิสะระณา,  ยัง กัมมัง กริสสันติ กัลยาณัง วา  ปาปะกัง วา ตัสสะ ทายาทา  ภวิสสันติ.

      ๖. สัพพา อิตถิโย กัมมัสสะกา กัมมะทายาทา กัมมะโยนี กัมมะพันธู   กัมมะปฎิสะระณา, ยัง กัมมัง กริสสันติ กัลยาณัง วา ปาปะกัง วา ตัสสะ ทายาทา   ภวิสสันติ.

      ๗.สัพเพ  ปุริสา   กัมมัสสะกา      กัมมะทายาทา    กัมมะโยนี   กัมมะพันธู     กัมมะปฎิสะระณา, ยัง  กัมมัง  กริสสันติ กัลยาณัง วา ปาปะกัง วา  ตัสสะ  ทายาทา ภวิสสันติ.

      ๘. สัพเพ  อริยา   กัมมัสสะกา กัมมะทายาทา   กัมมะโยนี    กัมมะพันธู   กัมมะปฎิ สะระณา, ยัง กัมมัง กริสสันติ กัลยาณัง วา ปาปะกัง วา  ตัสสะ   ทายาทา   ภวิสสันติ.

      ๙. สัพเพ อะนะริยา กัมมัสสะกา กัมมะทายาทา กัมมะโยนี กัมมะพันธู กัมมะปฎิ สะระณา, ยัง กัมมัง  กริสสันติ กัลยาณัง วา ปาปะกัง วา   ตัสสะ   ทายาทา   ภวิสสันติ.

    ๑๐. สัพเพ เทวา กัมมัสสะกา     กัมมะทายาทา กัมมะโยนี กัมมะพันธู
กัมมะปฎิ สะระณา, ยัง กัมมัง  กริสสันติ กัลยาณัง วา ปาปะกัง วา  ตัสสะ    ทายาทา   ภวิสสันติ.

    ๑๑. สัพเพ มนุสสา กัมมัสสะกา      กัมมะทายาทา กัมมะโยนี กัมมะพันธู กัมมะปฎิ สะระณา, ยัง กัมมัง กริสสันติ กัลยาณัง วา ปาปะกัง วา ตัสสะ     ทายาทา   ภวิสสันติ.

    ๑๒. สัพเพ วินิปาติกา กัมมัสสะกา กัมมะทายาทา กัมมะโยนี กัมมะพันธู กัมมะปฎิ สะระณา, ยัง กัมมัง  กริสสันติ กัลยาณัง วา ปาปะกัง วา  ตัสสะ   ทายาทา   ภวิสสันติ.”

       หมายเหตุ  อานิสงส์การแผ่เมตตา ท่านบอกไว้ว่า พระโยคีมหานาค เจริญเมตตามากยิ่งกว่าฝูงคน ย่อมได้ประสบผลเหล่านี้คือ หลับ ตื่น ชื่นตา เสวยสุขอนันต์ ไม่ฝันร้ายกาจ ปีศาจ  มนุษย์ ชื่นชมหฤหรรษ์ เทวาทุกชั้นช่วยชูรักษา หอก ดาบ ยาพิษ ไฟลุกเข้ามา ครั้นถึงองค์พระโยคาย้อนกลับยับเป็นผง ใจร้ายใจบาปสันดานชั่วหยาบ ระงับดับลงด้วยพรหมวิหารา องค์พระโยคาผ่องใสใครเห็นพิศวง เมื่อตายไม่หลงเหมือนคนสามานย์ ส่งผลอัครฐานถึงพรหมโลกแล  ฯ 

อิติปิโสรัตนมาลา  

      พระคาถาอิติปิโสรัตนมาลานี้ แสดงพระพุทธคุณลึกซึ้ง ซึ่งมีอานุภาพมาก  ได้คัดมาเพียงบางบท  ซึ่งโบราณาจารย์ให้พยายามท่องภาวนาไว้ตามสมควร ให้จำได้จนขึ้นใจจนจิตมั่นคง เป็นสมาธิภาวนา...จะได้รับอานิสงส์ ตามอานุภาพที่ท่านแสดงไว้ ตลอดทุกทิพาราตรีกาล  ฯ

                           

บทสวดอิติปิโสรัตนมาลา

ปิโย เทวะมะนุสสานัง     

ปิโย พรหมมานะมุตตะโม       

ปิโย นาคะสุปัณณานัง               

ปิณินทะริยัง นะมามิหัง
     ภาวนาเสกกระแจะ น้ำมันหอม หมาก พลู สารพัดที่กินที่ใช้ เป็นเสน่ห์แก่คนทั้งปวง


 คะมิโต เยนะ สัทธัมโม    

คะมาปิโต สะเทวะกัง        

 คัจฉะมาโน สิวัง ธัมมัง     

คะตะธัมมัง นะมามิหัง
ภาวนาบรรเทาโรคาพยาธิ


วานา นิกขะมิ โย ตัณหา               

วาจัง ภาสะติ อุตตะมัง 

วานะนิพพาปะณัติถายะ   

วายะมันตัง นะมามิหัง

ภาวนาป้องกันโจรผู้ร้าย


มาตาวะ ปาลิโตสัตเต    

มานะถัตเธ ปะมัททิ โน
มานิโต เทวะสังเฆหิ    

มานะฆาฏัง นะมามิหัง
ภาวนาเพื่อทำคนแข็งกระด้างให้อ่อนโยน

โธติราเค จะ โทเส จะ 

โธติโมเห จะ ปาณินัง
โธตะเกลสัง  โธตะปาปัง 

โธตาสะวัง   นะมามิหัง

ภาวนาป้องกันสัตว์ร้าย

สุนทะโร วะระรูเปนะ    

สุสะโร ธัมมะภาสะเน
สุทุททะสัง  ทิสาเปติ    

สุคะตันตัง  นะมามิหัง

ภาวนาป้องกันการกระทำยำยีและอาคมทั้งปวง



คัจฉันโต โลกิยัง ธัมมัง    

คัจฉันโต  อะมะตัง ปะทัง                       คะโต โส สัตตะโมเจตุง   

 คะตัญญาณัง  นะมามิหัง
ภาวนา เพื่อค้าขาย ทำมาหากินรุ่งเรือง



โตเสนโต วะระธัมเมนะ 

โตสะฐาเน สิเว วะเร
โตสัง อากาสิ ชันตูนัง 

โตสะจิตตัง นะมามิหัง

ภาวนาเมื่อเข้าสู่ผู้ใหญ่ ขุนนาง และท้าวพระยาทั้งปวง ได้ความสวัสดี

โลเภ ชะหะติ สัมพุทโธ   

โลกะเสฏโฐ คุณากะโร  

โลเภ สัตเต ชะหาเปติ   

โลภะสันตัง นะมามิหัง
ภาวนาทำให้ศัตรูกลับเป็นมิตร

 นุเทติ ราคะ จิตตานิ    

นุทาเปติ ปะรัง ชะนัง
นุนะ อัตถัง มะนุสสานัง    

นุสาสันตัง  นะมามิหัง
ภาวนากันหลับใหลแล

ริปุราคา ทิภูตังวะ    

ริทธิยา ปะฏิหัญญะติ

ริตตังกัมมัง นะ กาเรตวา     

ริยะวังสัง  นะมามิหัง
ภาวนาเพื่อให้มีความองอาจกล้าหาญ  ในสังคม

นุนะธัมมัง ปะกาเสนโต    

นุทานัตถายะ  ปาปะกัง

นุนะทุกขา ธิปันนานัง     

นุทาปิตัง  นะมามิหัง

ภาวนาขึ้นช้าง ลงม้า มีตบะเดชะ

ติณโณ โส สัพพะปาเปหิ

ติณโณ สัตเต ปติฏฐิโต

ติเร  นิพพานะสังขาเต   

ติกขัญญาณัง   นะมามิหัง

ภาวนาป้องกันโรคภัย ทุกข์โศกกษัย สูญหาย



พระคาถาอิติปิโส ๘ ทิศ

หรือพระคาถายันต์เกราะเพชร

        ๑. อิ  ระ  ชา  คะ  ตะ  ระ  สา,
    เสกถอนพิษสัตว์ได้

            ๒.  ติ  หัง  จะ  โต  โร   ถิ    นัง,

                    เสกเป่าดับพิษไฟได้
            ๓.  ปิ  สัม  ระ  โล   ปุ  สัต  พุท,
             เสกปูนสูญฝีได้

            ๔.   โส  มา  ณะ  กะ  ริ  ถา   โธ,

                   เสกถอนพิษสัตว์ต่อยกัดได้
            ๕.  ภะ  สัม  สัม  วิ   สะ  เท  ภะ,

            เสกเป่าข่มขวัญศัตรูได้

            ๖.  คะ  พุท  ปัน  ทู  ทัม  วะ  คะ,
          
ภาวนาให้เทพาอารักษ์คุ้มครอง

        

            ๗.  วา  โธ   โน   อะ  มะ มะ วา,

           เสกป้องกันภูตผีปีศาจได้

            ๘. อะ  วิช   สุ  นุต  สา  นุส  ติ.

    เสกทรายโปรยรอบที่พักกันสัตว์ร้าย


    พระคาถา อิติปิโสถอยหลัง

         ๑.   ติ   วา   คะ   ภะ   โธ   พุท   นัง,

         ๒.   สา  นุส  มะ  วะ    เท    ถา    สัต,
         ๓.   ถิ   ระ
  สา   มะ   ทัม   สะ    ริ,
         ๔.   ปุ   โร   ตะ  นุต    อะ   ทู      วิ,

         ๕.   กะ  โล  โต    คะ    สุ    โน   ปัน,
         ๖.   สัม  ณะ  ระ  จะ    ชา   วิช   โธ,
         ๗.  พุท  สัม   มา  สัม   หัง   ระ   อะ,
         ๘.   วา   คะ   ภะ   โส    ปิ     ติ    อิ.

สวดภาวนาเป็นเสน่ห์อย่างดี  มีฤทธิ์                คงกระพันหนักหนา  เพิ่มเดชาฉมัง

                             

อุปปาตสันติคาถา

(มหาสันติงหลวง)
*******

     บทสวดภาวนาระงับเคราะห์กรรม และสวดเพื่อสงบสิ่งกระทบกระเทือนต่าง ๆ 

ในที่นี้ขอยกมาแสดงเพียงบางบทที่สำคัญ ตามสมควร กล่าวกันว่า ผู้ใดได้สวดหรือฟังอุปปาตสันติคาถา จะพึงชนะบาปทั้งปวง และจักเจริญด้วยคุณ ๕ ประการ คือ อายุ วรรณะ สุขะ พละ และปฎิภาณ         ความวิบัติย่อมไม่มาแผ้วพาน ย่อมได้รับความอิ่มใจในกาลทุกเมื่อ  ย่อมชนะข้าศึกทั้งมวล โรคาพยาธิย่อมไม่เบียดเบียน ย่อมเจริญด้วยทรัพย์ศฤงคาร ภัยจากมนุษย์  อมนุษย์ และสัตว์ร้ายน้อยใหญ่  ย่อมสงบ ด้วยเสียงแห่งการสวดอุปปาตสันติ                  

สุทุททะโส  อะยัง  ธัมโม   โลกัตถัง  ชินะเทสิโต
มะหาสันติกะโร  โลเก         สัพพะสัมปัตติทายะโก

วัตถุยัสสะ  โย ยัตถะ           สังวัณเณติ  คุณุตตะเม

ตัสสะ ตัตถะ สุขาโรคยะ      โสตถิโย   โหนติ  สัพพะทา

ตัณหังกะโร  มะหาวีโร     สัพพะโลกานุกัมปะโก

วันตะสังสาระคะมะโน    สัพพะกามะทะโท  สะทา

สัมพุทโธ  สัพพะธัมมานัง     ภะเคหิ ภาคยายุโต

วิชชาจรณะสัมปันโน    โสตถยาโรคยัง ทะทาตุ โน

อะนุปุพพิกะถัง   สุตวา       ยะโส  เอกัคคะมานะโส

อัคคะธัมมะมุนุปปัตโต       โสตถยาโรคยัง ทะทาตุ โน

อะนุรุทธะมะหาเถโร     ทิพพะจักขูนะมุตตะโม

ญาติเสฏโฐ ภะคะวะโต  โสตถยาโรคยัง ทะทาตุ โน

สิงคาละมาตา ภิกขุนี   สัทธาธิมุตตานะมุนตะมา

กะโรตุ  โน มะหาสันติง  อาโรคยัญจ สุขัง สะทา

เมตตาการุณิกา  สัพเพ  สัพพะสัตตะหิเตสิโน

กะโรนตุ  โน มะหาสันติง  โสตถิมาโรคยะมายุวัง

โสตถิกาโม  ละเภ  โสตถิง  สุขะกาโม  สุขัง  ละเภ
อายุกาโม  ละเภยยายุง  ปุตตะกาโม  ละเภ  สุเต

ปะฐัพยาปาทิสัญชาตา  อุปปาตา  จันตะลิกขะชา
อินทาทิชะนิตุปปาตา  ปาปะกัมมะสะมุฏฐิตา

สัพพุปปาตา  วินัสสันติ  เตชะสุปปาตะสันติยาติ

พระคาถาป้องกันมหันตภัย

(บางตอนจาก พระธารณะปริตร)

***

ทิฏฐิลา   ฑัณทิลา   มันติลา

  โรคิลา    ขะระลา   ทุพพิลา   

เอเตนะ สัจจะวัชเชนะ

โสตถิ เม โหตุ สัพพะทา

     “ใครคิดร้ายขอให้พ่ายแพ้ไป ยาพิษ หอกดาบ ปืนไฟ อย่าแผ้วพาน เวทมนต์คาถา   จงศักดิ์สิทธิ์   เรืองฤทธิ์กล้า

โรคาภยันตราย เบาคลายหายผ่าน ให้รอดพ้นเคราะห์ร้ายในจักรวาฬ  ถูกเครื่อง

พันธนาการหลุดรอดทันที ด้วยอานุภาพแห่งสัจจะวาจานี้ ขอความสุขสวัสดีจงมีแก่ข้าพเจ้า ทุกเมื่อเทอญ ฯ ”



พระคาถามงคลจักรวาฬ

 

       อิมัสมิง   มงคลจักรวาลทั้งแปดทิศ      ประสิทธิจงมาเป็นกำแพงแก้วทั้งเจ็ดชั้น มาป้องกันห้อมล้อมครอบทั่ว อนัตตา,  ราชะ เสมานา  เขตเต, สะมันตา สะตะโยชะนะสะตะสะหัสสานิ พุทธะชาละปะริกเขตเต,รักขันตุ สุรักขันตุ...ฯ
       อิมัสมิง  มงคลจักรวาลทั้งแปดทิศ ประสิทธิจงมาเป็นกำแพงแก้วทั้งเจ็ดชั้น มาป้องกันห้อมล้อมครอบทั่ว อนัตตา, ราชะเสมานา เขตเต, สะมันตา สะตะโยชะนะสะตะสะหัสสานิ  ปัจเจกะพุทธะชาละปะริก เขตเต รักขันตุ สุรักขันตุ ฯ

       อิมัสมิง มงคลจักรวาลทั้งแปดทิศ ประสิทธิจงมาเป็นกำแพงแก้วทั้งเจ็ดชั้น มาป้องกันห้อมล้อมรอบครอบทั่ว อะนัตตา, ราชะ เสมานา เขตเต, สะมันตา สะตะโยชะนะสะตะสะหัสสานิ ธัมมะชาละปะริกเขตเต   รักขันตุ สุรักขันตุ ฯ

       อิมัสมิง มงคลจักรวาลทั้งแปดทิศ ประสิทธิจงมาเป็นกำแพงแก้วทั้งเจ็ดชั้น มาป้องกันห้อมล้อมรอบครอบทั่ว อนัตตา, ราชะ เสมานา เขตเต, สะมันตา    สะตะ  โยชะนะสะตะสะหัสสานิ สังฆะชาละปะริกเขตเต      รักขันตุ สุรักขันตุ ฯ

พระคาถามงกุฎพระพุทธเจ้า

อิติปิโส   วิเสเสอิ,  อิเสเส  พุทธะนาเมอิ, 

อิเมนา  พุทธะตังโสอิ,  อิโสตัง  พุทธะปีติอิ

       สวดภาวนาอาราธนาพระบรมธาตุ และเป็นสิริมงคล สามารถป้องกันภัยอันตรายต่าง ๆ ได้

พระคาถาพระปัจเจกโพธิ์โปรดสัตว์

โดย พระครูวิหารกิจจานุการ (หลวงพ่อปาน)

และครูบาพึ่ง

***

พุทธะ มะอะอุ นะโมพุทธายะ
(บทนี้สวดครั้งเดียว)
 วิระทะโย วิระโคนายัง

วิระหิงสา วิระทาสี วิระทาสา

 วิระอิตถิโย  พุทธัสสะ มานี  มามะ

พุทธัสสะ สวาโหม

(บทนี้สวด ๓ -๕-๗- หรือ ๙ จบ)

      ผู้ภาวนาพระคาถานี้อยู่เสมอ จะได้รับอานิสงส์เพิ่มลาภสักการะ มีฐานะความเป็น อยู่สุขสบาย  ไม่อดอยากยากจน  แต่ต้องใส่บาตรแก่พระสงฆ์เป็นนิจ และต้องรักษาศีลอย่างน้อยสองข้อ คือ เว้นการลักทรัพย์ เว้นการเสพสุรายาเมาทุกชนิด กับห้ามในทางมิจฉาชีพและการพนันต่าง ๆ ด้วย

พระคาถานมัสการพระพุทธเจ้า  ๑๐  ทิศ

R R R

ปะทุมุตตะโร จะ ปุระพายัง    อาคะเณยเย จะ เรวะโต

ทักขิเณ กัสสะโป  พุทโธ   หะระติเย จะ สุมังคะโล

ปัจฉิเม  พุทธะสิขี  จะ  พายัพเพ จะ เมธังกะโร

อุตตะเร  สากะยะมุนี  เจวะ  อีสาเณ  จะ  สะระณังกะโร

กะกุสันโธ ปะฐะวิยัง  อากาเส จะ ทีปังกะโร

เอเต ทะสะทิสา  พุทธา  ราชะธัมมัสสะ  ปูชิตา

นัตถิ โรคะภะยัง  เขมัง  อะโสกัง สัมปัตติ  ทายะกัง

ทุกขะโรคะภะยัง นัตถิ    สัพพะสัตตุ  วิธังเสนตุ

พระคาถานมัสการพระอรหันต์ ๘ ทิศ

   “สัมพุทโธ ทิปะทัง เสฏโฐ,    นิสินโน เจวะ มัชฌิเม, โกณฑัญโญ  ปุพพะภาเค จะ,  อาคะเณยยะ จะ กัสสะโป สารีปุตโต จะ ทักขิเณ,    หะระติเย   อุปาลี จะ, ปัจฉิเม จะ อานันโท,      พายัพเพ  จะ คะวัมปะติ, โมคคัลลาโน จะ อุตตะเร,    อิสาเณปิ  จะ  ราหุโล,  อิเม โข มังคะลา พุทธา,     สัพเพ  อิธะ  ปะติฎฐิตา,  วันทิตา เต จะ อัมเหหิ,   สักกาเรหิ จะ ปูชิตา, เอเตสัง  อานุภาเวนะ,   สัพพะโสตถี  ภะวันตุ เม
  
อานิสงส์ แห่งการบูชา นมัสการพระพุทธเจ้าและพระอริยเจ้าทั้งหลาย  เป็นมงคลอันสูงสุด ทำให้จิตเป็นกุศลได้ง่าย ช่วยให้จิตใจสงบสุขและผ่องใส  เป็นไปเพื่อบรรลุมรรคผลนิพพานโดยพลัน

พระคาถาพระอรหันต์

พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ
นามะรูปัง
อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา

ธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ
นามะรูปัง อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา

สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ
นามะรูปัง อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา
พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ

ธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ

สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ
นามะรูปัง อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา

อะนันตัง พะละวัง พุทธัง
อะนันตัง โคจะรัง ธัมมัง

อะนันตัง อะริยัง สังฆัง
อนันตัง โพธิมุตตะมัง ฯ

   ให้สวดภาวนาประจำวัน จะมีอานิสงส์ ทำมาหากินคล่อง รวยทรัพย์  มีสุขภาพแข็งแรงปราศจากโรคภัย  ร่างกายไม่แก่ง่าย มีอายุยืน

พระคาถาบูชาพระสีวลี

สีวลี จะ มหาเถโร เทวตานะระปูชิโต โส  ระโห  ปัจจยาทิมหิ สีวลี จะ มหาเถโร ยักขา เทวาภิปูชิโต โส ระโห ปัจจะยาทิมหิ  อะหัง  วันทามิ ตัง     สะทา สีวลีเถรัสสะ เอตัง คุณัง โสตถิลาภัง        ภะวันตุ เม
  
อานิสงส์ของผู้บูชาจะเกิดลาภสักการะต่าง ๆ มีคนรักมาก    ศัตรูร้ายและภัยอันตรายทั้งปวงไม่พ้องผ่านได้

พระคาถาป้องกันภัย

  “พุทธะ  เสฎโฐ  มหานาถัง   วัณณะโก สีหะนาทะกัง

  พุทธะ สิระสา  เตเชนะ       มาระเสนา  ปะราชะยัง

   ชัยยะ      ชัยยะ                       สะทาโสตถี  ภวันตุ  เม

  พุทธัง  ธัมมัง  สังฆัง       สัพเพปิ  อันตระ ยา   เม

  มะเหสุง  ตัสสะ  เตชะสา

   

       เมื่อไปในที่ต่าง ๆ ถ้าเห็นสถานการณ์ไม่น่าไว้วางใจ ก็ให้ตั้งจิตให้แน่วแน่ นึกถึงคุณพระรัตนตรัย คุณงามความดี ตลอดบุญกุศลของตน    และสวดพระคาถาบทนี้ไว้    

จะช่วยให้แคล้วคลาดจากภัยอันตรายทั้งปวงได้

                      

พระคาถาโพธิบาท

สวดภาวนาป้องกันภัยทั้งสิบทิศ

***

บูรพารัสมิง  พระพุทธะคุณัง,

บูรพารัสมิง พระธัมเมตัง,

บูรพารัสมิง พระสังฆานัง,

ทุกขะโรคะภะยัง วิวัญชัยเย,

สัพพะทุกข์, สัพพะโศก, สัพพะโรค,

สัพพะภัย, สัพพะเคราะห์ เสนียดจัญไร วิวัญชัยเย, สัพพะธะนัง สัพพะลาภัง        ภะวันตุเม รักขันตุ สุรักขันตุ

(หมายเหตุ)  สวดต่อ ๆ ไปให้เปลี่ยน บูรพารัสมิง,  เป็น อาคเนย์รัสมิง,  ทักษิณรัสมิง,  หรดีรัสมิง,  ปัจจิมรัสมิง, พายัพรัสมิง,  อุดรรัสมิง,  อีสานรัสมิง,  อากาศรัสมิง,  ปะฐะวีรัสมิง,  บทสวดนอกนั้นเหมือนกันหมด  รวม ๑๐ ทิศ

            พระคาถาโพธิบาทนี้ ศักดิ์สิทธิ์ยิ่ง  ถ้าผู้ใดสวดเป็นประจำ จะเป็นสิริมงคลแก่ตนเอง ทำให้อยู่เย็นเป็นสุข ไม่มีโรคภัยไข้เจ็บมาเบียดเบียน มีโชคมีลาภ และสามารถป้องกันอันตรายจากสัตว์ร้าย และภูตผีปีศาจทั้งหลายได้

 

พระคาถา สักกัตวา
สักกัตวา พุทธะระตะนัง     โอสะถัง อุตตะมัง วะรัง

   หิตัง เทวะมะนุสสานัง          พุทธะเตเชนะ โสตถินา

   นัสสันตุปัททะวา สัพเพ      ทุกขา วูปะสะเมนตุ เต
   สักกัตวา ธัมมะระตะนัง       โอสะถัง อุตตะมัง วะรัง

   ปะริฬาหูปะสะมะนัง            ธัมมะเตเชนะ โสตถินา

   นัสสันตุปัททะวา สัพเพ     ภะยา วูปะสะเมนตุ เต
   สักกัตวา สังฆะระตะนัง      โอสะถัง อุตตะมัง วะรัง
   อาหุเนยยัง ปาหุเนยยัง          สังฆะเตเชนะ โสตถินา

   นัสสันตุปัททะวา สัพเพ    โรคา วูปะสะเมนตุ เต ฯ

       ผู้ใดหมั่นสวดพระคาถานี้ จะระงับโรคภัยไข้เจ็บช่วยให้อายุยืนยาว ใช้เสกยากินแก้โรคก็ได้ และสามารถแคล้วคลาดจากภัยต่าง ๆ   เช่นราชภัย โจรภัย  ฯลฯ  อีกด้วย
                            

            พระคาถาอะภะยะปริตร

        “ยันทุนนิมิตตัง  อะวะมังคะลัญจะ                           

       โย จามะนาโป  สะกุณัสสะ สัทโท
       ปาปัคคะโห ทุสสุปินัง อะกันตัง
       พุทธานุภาเวนะ วินาสะเมนตุ ฯ

          ยันทุนนิมิตตัง  อะวะมังคะลัญจะ

      โย จามะนาโป สะกุณัสสะ สัทโท

      ปาปัคคะโห ทุสสุปินัง อะกันตัง
      ธัมมานุภาเวนะ  วินาสะเมนตุ ฯ

          ยันทุนนิมิตตัง อะวะมังคะลัญจะ

     โย จามะนาโป สกุณัสสะ สัทโท

     ปาปัคคะโห ทุสสุปินัง อะกันตัง
     สังฆานุภาเวนะ วินาสะเมนตุ

     เป็นบทสวดป้องกันอันตรายต่าง ๆ  ถ้าเกิดนิมิตฝันไม่ดี หรือเกิดอาเพศสังหรณ์ใจทางไม่ดี จะช่วยให้กลับร้ายกลายเป็นดีขึ้น ผู้หมั่นสวดจำเริญภาวนาไว้ จะเกิดสิริมงคล  ลาภยศดีนักแล ฯ

พระคาถานิทรารมณ์

v v v

อินทะธัมมัง   เทวะธัมมัง,

พรหมมะธัมมัง มหาพรหมมะธัมมัง,

อีสีธัมมัง  มหาอีสีธัมมัง,

มุนีธัมมัง มหามุนีธัมมัง,

ปุริสะธัมมัง มหาปุริสะธัมมัง,

จักกะวัตติธัมมัง มหาจักกะวัตติธัมมัง, พุทธะธัมมัง ปัจเจกะพุทธะธัมมัง,.... สัพพะโลกาธิปะติ   ญาณะธัมมัง

สัพพะโลกะจะริยะ  ญาณะธัมมัง,

เอเตนะ ธัมเมนะ, เอเตนะ  สัจจะวัชเชนะ,   มะมะ สุวัตถิ โหตุ, มัยหัง สวาหายะ,

นะโม พุทธัสสะ นะโม ธัมมัสสะ นะโม สังฆัสสะ, เสยยะถีทัง, หุรูหุรู, สวาหายะ                  

            พระคาถาบทนี้ ช่วยให้นอนหลับง่าย สวดเมื่อนอนไม่หลับ อันเกิดแต่ธาตุทั้งสี่แปรปรวน โรคร้ายรุมเร้า และจิตวิปริตกังวล

            ท่านให้ตั้งใจสวด แล้วจึงศักดิ์สิทธิ์ ถึงสวดไม่ทันจบ ก็มักหลับก่อนแล เหมาะแก่ผู้สูงอายุเป็นอย่างยิ่ง และเมื่อตื่นขึ้นแล้ว ย่อมมีพลังพูนเพิ่มเป็นที่น่าพิศวง

พระคาถาอนุโมทนาเทวดา

อากาสัตถา  จะ ภุมมัฏฐา

เทวานาคา   มหิทธิกา

ปุญญันตัง  อนุโมทันตุ

จิรัง รักขันตุ  พุทธะสาสนัง

พระคาถาหลวงปู่ทวด

นะโมโพธิสัตโต

อาคันติมายะ อิติภะคะวา
คุ้มครองป้องกันอันตราย

พระคาถาเมตตาจิต

หลวงปู่ขาว

พุทธะเมตตัง จิตตังมะมะ

พุทธะพุทธานุภาเวนะ

ธัมมะเมตตัง จิตตังมะมะ

ธัมมะธัมมานุภาเวนะ

สังฆะเมตตัง จิตตังมะมะ

สังฆะสังฆานุภาเวนะ

พระคาถาหลวงปู่ศุข

สัตถา  เทวะ    มนุสสานัง

พุทโธ ภะคะวาติ   มะอะอุ
ป้องกันภัยพิบัติ

พระคาถาขอพรพระ

พุทธัง  อาราธะนัง  กะโรมิ

ธัมมัง  อาราธะนัง  กะโรมิ

สังฆัง อาราธะนัง  กะโรมิ

ติณณัง  ระตะนานัง  อานุภาเวนะ

อิมัง  สัจจะวาจัง  อะธิฎฐามิ

สัพพะสิทธิ  ภะวันตุ  เม

พระคาถาหลวงพ่อโอภาสี

* * *

อิติสุคะโต  อะระหังพุทโธ   นะโมพุทธายะ

ปะฐะวีคงคา  พระภุมมะเทวา  ขะมามิหัง

เมตตามหานิยม

พระคาถาบารมี ๓๐ ทัส

ทานะ ปาระมี  สัมปันโน

ทานะ  อุปะปาระมี  สัมปันโน  

ทานะ  ปะระมัตถะปาระมี สัมปันโน  เมตตา ไมตรี กรุณา มุทิตา  อุเบกขา ปาระมี  สัมปันโน อิติปิโส ภะคะวา

       (หมายเหตุ  ครั้งต่อไป ให้เปลี่ยนชื่อบารมีจาก  ทานะ เป็นสีละ เป็นเนกขัมมะ เป็นปัญญา เป็นวิริยะ เป็นขันติ เป็นสัจจะ เป็นอธิษฐานะ เป็นเมตตา และเป็นอุเปกขา   บทสวดนอกนั้นเหมือนกันหมด)

พระคาถาพระบรมครูแพทย์ ชีวกโกมารภัจจ์

โอม นะโม ชีวะโก สิระสา อะหัง กะรุณิโก สัพพะ สัตตานัง โอสะถะ ทิพพะมันตัง    ปะภาโส สุริยาจันทัง โกมาระภัจโจ           ปะกาเสสิ วันทามิ ปัณฑิโต สุเมธะโส        อะโรคะยา สุมะนา โหมิ

คำอธิษฐาน

  “ขอบารมีแห่งบรมครูหมอชีวกโกมารภัจจ์  จงคุ้มครองให้ข้าพเจ้า (ระบุชื่อ,นามสกุล) พ้นจากโรคร้ายภัยเวร โรคเวรโรคกรรม ขอให้มีอายุมั่นขวัญยืน       มีสุขภาพกาย สุขภาพจิตที่ดี ขอให้อานิสงส์แห่งแรงอธิษฐานนี้ ช่วยคุ้มครองข้าพเจ้าตั้งแต่บัดนี้ ตลอดไปเทอญ” ฯ

พระคาถาครูบาศรีวิชัย

นะโมเม พุทธะ วีรัตถุ

วิปปะมุตโต สิ สัพพะธิ

สัพพาธะ ปะฏิโนสะมิ

ตัสสะเม สะระณัง ภะวะ
สวดช่วยบำบัดทุกข์ภัยทั้งหลาย ฯ

พระคาถาคุ้มครองตน

“ฆะเฏสิ  ฆะเฏสิ  กิง การะณา
ฆะเฏสิ  อะหังปิตัง  ชานามิ ชานามิ” 
สามารถบริกรรมป้องกันตัวเองได้  ฯ


พระคาถาสีหนาท

“สัพเพ พุทธา  อะสะมะสะมา

สัพเพ พุทธา มหิทธิกา

สัพเพ ทะสะพะลูเปตา

เวสารัชเชหุปาคะตา                                       สัพเพ เต ปะฏิชานันติ

อาสะภัณฐานะมุตตะมัง

สีหะนาทัง  นะทันเต เต

ปะริสาสุ วิสาระทา
ช่วยส่งเสริมเพิ่มพลังถ้อยคำ  ฯ



พระคาถาสมเด็จพระสังฆราชไก่เถื่อน
********

“เว ทา สา กุ    กุ สา  ทา เว

ทา ยะ สา ตะ   ตะ สา ยะ ทา

สา สา ทิ กุ   กุ  ทิ สา สา

กุ ตะ กุ พู   พู กุ ตะ กุ
เพิ่มพลังเสียงและเมตตาจิตต่อผู้ตั้งใจภาวนา

        

พระคาถาเสริมพลังสติปัญญา

“มุนินทะ  วะทะนัมโพชฌะ 

คัพภะสัมภวะ สุนทรี

ปาณีนัง  สะระณัง วาณี
มัยหัง  ปิณะยะตัง มะนัง

“นางฟ้า ได้แก่พระไตรปิฎก  อันเกิดจากดอกบัว

คือพระโอษฐ์ของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า

ซึ่งเป็นที่พึ่งพำนักของสรรพสัตว์ทั้งหลาย

ขอจงยังใจของข้าพเจ้าให้เอิบอิ่ม

พระคาถา หัวใจอริยสัจ
******
  “ทุ    สะ  นิ  มะ 
  สะ  นิ   มะ  ทุ

    นิ    มะ  ทุ   สะ

     มะ  ทุ   สะ   มิ” 
     เกิดความทุกข์ให้รู้
     มีสมุทัยจงละ

     นิโรธให้แจ่มแจ้ง
       เข้มแข็งตามองค์มรรค ฯ

                                                                                      

พระคาถา หัวใจพระอภิธรรม           ******

“จิ  เจ  รู  นิ

เจ  รู  นิ  จิ
 รู  นิ  จิ  เจ 
   นิ  จิ  เจ  รู
” 

พิจารณาจิตตน
เจตสิกปนให้ทราบ

รู้สภาพรูปตามจริง
  สุขยิ่งถึงนิพพาน ฯ

 
                                                                                  

พระคาถา หัวใจธาตุสี่
******

“นะ  มะ  พะ  ทะ
 มะ  พะ  ทะ  นะ
พะ  ทะ  นะ  มะ
   ทะ  นะ  มะ  พะ” 

ดินน้ำลมไฟ

หัวใจธาตุสี่
พิจารณาให้ดี

     มีการปล่อยวาง ฯ 



พระคาถา หัวใจนักปราชญ์

******

“สุ  จิ  ปุ  ลิ 
จิ  ปุ  ลิ  สุ
ปุ  ลิ  สุ  จิ
   ลิ  สุ  จิ  ปุ”


ฟัง,  คิด,  ถาม, จด
แม่บทของปราชญ์

ผู้มีความสามารถ
  ต้องฉลาดศึกษา ฯ



พระคาถา หัวใจกาสลัก
******

“จะ  ภะ  กะ  สะ
ภะ  กะ  สะ  จะ
กะ  สะ  จะ  ภะ
   สะ  จะ  ภะ  กะ”


เว้นคบคนพาล
สังสรรค์บัณฑิต
ทำดีเป็นนิตย์
  เห็นชีวิตอนิจจัง ฯ


พระคาถา หัวใจพระสีวลี
******

 “นะ  ชา  ลิ   ติ
    ชา   ลิ   ติ   นะ
    ลิ    ติ   นะ ชา
      ติ   นะ ชา   ลิ” 

    ไม่เอาเปรียบใคร

      น้ำใจเอื้อเฟื้อ

     ช่วยเหลือเจือจาน

       ให้ทานก่อนรับ ฯ

                                                                                                          

                                                              พระคาถา หัวใจเศรษฐี

*****

“อุ  อา  กะ  สะ 

อา  กะ  สะ  อุ
กะ  สะ  อุ  อา
    สะ  อุ  อา  กะ


 ต้องขยันขันแข็ง
แบ่งเงินออมไว้

มีสหายดีงาม
  ใช้จ่ายตามควร ฯ

พระคาถา  หัวใจเทพยดา
*******

“สะ  สี  จา  ปะ 
   สี   จา  ปะ  สะ
จา  ปะ  สะ  สี
   ปะ  สะ  สี  จา”


มีความศรัทธา

รักษาศีลธรรม
น้ำใจเสียสละ
  มีปัญญาละวาง ฯ


พระคาถา หัวใจพระพรหม
*******

“เม  กะ  มุ  อุ

กะ  มุ  อุ  เม

 มุ   อุ  เม  กะ

   อุ   เม  กะ  มุ


เมตตาปราณี
ทวีความเกื้อกูล

พูนเพิ่มยินดี
  มีใจวางเฉย ฯ



พระคาถา หัวใจฆราวาส

******
“สะ  ทะ  ขะ  จา

ทะ  ขะ  จา  สะ

ขะ  จา  สะ  ทะ

  จา  สะ  ทะ  ขะ 

มีความจริงใจ

ให้รู้จักข่มจิต

ผิดถูกให้ทน
 ขวนขวายเสียสละ ฯ



พระคาถา หัวใจวุฑฒิธรรม

*******

“สะ  สะ  โย  ธะ

สะ  โย  ธะ  สะ

โย  ธะ  สะ  สะ

  ธะ  สะ  สะ  โย

สัตบุรุษควรคบ

เคารพฟังธรรม

คำนึงดีชั่ว

ปฏิบัติตัวถูกต้อง ฯ



พระคาถา หัวใจอิทธิบาท

*******                                         

“ฉะ วิ  จิ  วิ

   วิ   จิ  วิ  ฉะ
  จิ  วิ  ฉะ  วิ
   วิ  ฉะ  วิ  จิ


เต็มใจทำงาน
อาจหาญสู้กิจ

จิตใจมุ่งมั่น

ชำนาญบำเพ็ญ ฯ



พระคาถา หัวใจสังคหวัตถุ
********

“ทา  ปิ  อะ  สะ

   ปิ  อะ  สะ  ทา
   อะ  สะ  ทา  ปิ

    สะ  ทา  ปิ  อะ

เอื้อเฟื้อด้วยดี

วจีให้ไพเราะ

สงเคราะห์ถูกทาง

วางตัวสม่ำเสมอ ฯ

พระคาถา หัวใจอธิษฐานธรรม
*********

“ปะ  สะ  จา  อุ

สะ  จา  อุ  ปะ
จา   อุ   ปะ  สะ

  อุ   ปะ  สะ  จา

มีปัญญารู้รอบ
ชอบความจริงใจ
ใฝ่สละข้าศึก

ฝึกสงบจิตไว้ ฯ

เพิ่มพลังชีวิต

ด้วยจิตภาวนา

สมาธิแก่กล้า

ปัญญาแจ่มใส

สุขกายสบายใจ

คัดลอกจาก หนังสือพลังชีวิต
ขอขอบคุณต้นฉบับจาก พระมหาปิยภัทร์ อตฺตวิชโย

                                                       ที่มา วัดป่าอริโซนา USA


Online: 4 Visits: 9,579,449 Today: 1,251 PageView/Month: 46,047